"โพลหนุนยกเครื่องกฏหมายทำแท้ง" [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.rssthai.com/reader.php?t=local&r=17268
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2553
จากประเด็นปัญหาดังกล่าว ให้ผู้เรียนอ่านเนื้อหาข่าว และสรุปในฐานะนักศึกษาที่เรียนวิชากฏหมายการศึกษา ผู้เรียนเป็นนักศึกษาวิชาชีพครูจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาและป้องกันนักเรียนที่อยู่ในความดูแลอย่างไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และรู้เท่าทันต่อการเหตุการณ์นี้ขึ้น เขียนอธิบายแนวคิดและวิธีการป้องกันและแก้ไขมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคมไทย
เนื้อหาข่าว
“มาร์ค”ห่วงการทำแท้งชี้เป็นปัญหาใหญ่ สั่งให้ศึกษาหาทางรณรงค์ โพล หนุนยกเครื่องกม.ทำแท้ง"
วันนี้ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.รัญจกร จันทมนัส ผู้ช่วยพยาบาล ที่ลอบเปิดคลินิกเถื่อนรับทำแท้ง พร้อมกับนำซากศพทารกที่ถูกทำแท้งไปให้ นายสุเทพ ชบางบอน กับนายสุชาติ ภูมี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม ย่านบางโคล่ ที่ถูกจับกุมเช่นยกันเผาทำลาย แต่เตาเผาศพเกิดชำรุดทำให้ต้องนำซากศพไปเก็บไว้ในช่องเก็บศพของโกดังเก็บศพภายในวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นเจอซากศพทารกทั้งหมด 2002 ศพ จนซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลก ภายหลังมีประชาชนที่นิยมเล่นหวยพากันนำสิ่งของไปเซ่นไหว้ที่โกดังเก็บศพของวัดไผ่เงินเพื่อหาเลขเด็ดไปสู้กับเจ้ามือหวยใต้ดิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ถึงกรณีพบซากทารก 2002 ศพ ที่วัดไผ่เงินโชตนาราม ว่า ชัดเจนว่ายังมีปัญหาเรื่องการทำแท้งและการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ซึ่งเราต้องช่วยกันทำให้ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นในสังคมของเรา ความจริงตั้งแต่ปีที่แล้ว ตนได้ตั้งประเด็นเรื่องปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมของเด็กและเยาวชนว่ากำลังเป็นปัญหาใหญ่ และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับหน่วยงานอื่น เร่งรณรงค์เรื่องค่านิยมต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่ที่ผ่านมาเรามักจะเข้าไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มเสี่ยงที่แท้จริง การรณรงค์ส่วนใหญ่จึงทำแบบทั่วไป ขณะนี้ตนได้ให้ศึกษาเพื่อทำให้เราเข้าตรงถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนในกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาได้ พร้อมๆกับต้องปรับปรุงเรื่องการศึกษาให้เด็กในลักษณะครอบครัวศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมตอนปลายไปถึงชั้นมัธยม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ไม่ให้ลุกลามบานปลายหรือเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วย
“ส่วนกฎหมายการทำแท้งนั้น ผมขอยืนยันว่าในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว คือมีความยืดหยุ่นพอสมควร โดยหลักการทำแท้งถือว่าผิดกฎหมาย แต่มีข้อยกเว้นให้เพื่อประโยชน์เรื่องการดูแลสุขภาพ โดยแพทยสภาได้ออกหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติต่างๆ ซึ่งผมเห็นว่ามีความเหมาะสมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแก้ไข แต่สิ่งที่เราจะต้องช่วยกันคือให้ความรู้ และสร้างค่านิยมที่ถูกต้องในหมู่เด็กและเยาวชน”นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณโกดังเก็บศพหลังเมรุวัดไผ่เงินโชตนาราม ถนนจันทน์ ซอย 43 แยก 22 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม ซึ่งเป็นสถานที่ซุกซ่อนซากทารก 2002 ศพ มีประชาชนทยอยเดินทางมาจุดธูปเทียนวางเครื่องเซ่นไหว้ทั้งอาหารคาวหวาน ขนม นม ผลไม้ และของเล่นอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะหน้าช่องเก็บศพหมายเลข 9 หมายเลข 10 และหมายเลข 17 ซึ่งเป็นที่เก็บซากทารกพบว่ามีเครื่องเซ่นไหว้จำนวนมากวางไว้กลาดเกลื่อน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้เข้าตรวจสอบที่ป่ากล้วยริมคลองติดกำแพงหลังวัดไผ่เงินฯ หลังจากได้รับแจ้งทางทรศัพท์ว่า พบซากทารกอีก 20 ศพ ถูกนำไปฝังเอาไว้บริเวณดังกล่าว แต่เมื่อตรวสอบอย่างละเอียดแล้วกลับไม่พบ คาดว่าเป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดีที่สร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย
จากนั้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกันนี้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่วัดไผ่เงินฯเพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้กับ พระครูวิจิตร สรคุณ เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินโชตนาราม แต่เนื่องจากเจ้าอาวาสอาพาธตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงมอบหมายให้ พระทิวา ธรรมชัยโย เลาขานุการมาพบแทน โดย นายองอาจ ใช้เวลาพูดคุยนาน 30 นาที ก่อนจะนำน้ำอัดลม นมถั่วเหลือง และนมกล่องไปจุดธูปเซ่นไหว้ที่หน้าโกดังเก็บศพของวัดด้วย
นายองอาจ เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ จะมีพิธีทำบุญครั้งใหญ่นิมนต์พระสงฆ์ทั้งวัดไผ่เงินฯที่มีกว่า 40 รูป มาสวดมาติกา บังสุกุล และถวายสังฆทานให้กับทารกทีเสียชีวิต โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 น.เป็นต้นไป หากประชาชนท่านใดอยากร่วมทำบุญด้วยก็ขอให้เดินทางมาในวันดังกล่าว ทั้งนี้ ตนจะเดินทางมาหารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกับทางวัด สำนักงานเขตบางคอแหลมและ สน.วัดพระยาไกร อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ย.นนี้
เมื่อถามว่า พอคดีสิ้นสุดจะทำพิธีฌาปนกิจทารกทั้ง 2002 ศพหรือไม่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบว่า คงต้องรอทางนิติเวชชันสูตรให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะปรึกษากับทางพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดไผ่เงินอีกครั้ง เท่าที่ลองสอบถามข้อมูลทราบว่าคนโบราณมีความเชื่อว่าไม่ให้เผาศพเด็กทารกเนื่องจากขณะที่เขามาเกิดยังเพียบพร้อมด้วยศีล 5 ประการ ยังไม่มีฟันแม้กระทั่งพูดจาโป้ปดก็ยังทำไม่ได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องฌาปนกิจกันจริงๆ ก็ต้องปรึกษากับหลายๆฝ่ายเพื่อให้เกิดความถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทยกันต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า หลังจากที่ นายสุเทพ ชะบางบอน และนายสุชาติ ภูมี สองผู้ต้องหาที่ศาลให้ประกันตัวออกมาแล้วก็กลับไปพักอยู่ในวัดเหมือนเดิม แต่เพื่อความไม่ประมาทตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนคอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมอยู่ตลอดเพราะเกรงว่าอาจหลบหนี ส่วนกรณีที่วัดไผ่เงินจะทำบุญครั้งใหญ่ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานหลายพันคน จึงจัดเตรียมกำลังตำรวจในโรงพักพร้อมทั้งอาสาสมัครกว่า 100 นาย มาคอยอำนวยความสะดวกและช่วยกันสอดส่องดูแลมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานมาด้วยว่า ขณะนี้เริ่มมีนักเสี่ยงโชคจากต่างจังหวัดเดินทางมาที่วัดไผ่เงินพร้อมกับนำเครื่องเซ่นไหว้มาจุดธูปขอหวยที่หน้าโกดังเก็บศพของวัดกันบ้างแล้ว โดยนักเสี่ยงโชคเชื่อกันว่าหากขอโชคลาภกับวิญญาณเด็กจะสมหวังเร็วขึ้นเนื่องจากมีอาถรรพ์แรงกว่าวิญญาณประเภทอื่นๆ
“อัศวิน”สั่งตรวจจับคลินิกทำแท้ง ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ.10) รรท.ผบช.ภ.1 ได้กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวลือว่า ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี มีคลินิคทำแท้งเถื่อนกระจายอยู่เป็นจำนวนมากว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.ปทุมธานี ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวแหล่งที่ตั้งรวมถึงการเปิดให้บริการของคลีนิคทำแท้งเถื่อนแล้ว หากพบเจอจะดำเนินการตามกฏหมายทันทีโดยไม่มีการละเว้นใดๆทั้งนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการกระทำผิดแต่อย่างใด
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพบซากทารกที่วัดไผ่เงินฯว่า ถ้าจะแก้ปัญหานี้ให้ตรงจุด จำเป็นต้องมีกฎหมายทำแท้งที่ถูกต้อง ด้วยความสมัครใจ และการร้องขอโดยมีเหตุจำเป็น ตนจะร่วมกับกลุ่มส.ส.ที่มีความคิดเห็นตรงกันศึกษาข้อมูลผลกระทบ และสิ่งที่ได้รับเพื่อเสนอกฎหมายฉบับนี้ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยหน้า โดยจะใช้ชื่อว่า “กฎหมายทำแท้งโดยถูกต้องด้วยความสมัครใจและร้องขอโดยมีเหตุจำเป็น”
นายสาธิต กล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีหลักการดังนี้ คือ ให้ผู้ปกครองของผู้เยาว์ หรือผู้ตั้งครรภ์ สมัครใจและร้องขอต่อเจ้าหน้าที่ ว่าตนเองมีความจำเป็นที่จะขอทำแท้ง ยกตัวอย่าง 1.มารดาและบิดาของทารกไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูเด็กหลังคลอดได้เนื่องจากวัย ฐานะทางการเงิน สภาพแวดล้อม 2.เพราะถูกคนที่เป็นบิดาทอดทิ้ง และมารดาไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูบุตร 3. การถูกกระทำละเมิดกฎหมายด้วยการข่มขืน จนตั้งครรภ์ และสมัครใจไม่เอาทารกไว้ 4.ทารกในครรภ์มีปัญหาโรคติดต่อ 5. ทารกในครรภ์มีความผิดปกติ เกิดมาแล้วอาจพิการ หรือไม่ปกติ โดยหลักการในข้อ.3-5 อาจจะมีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว แต่ต้องนำมารวมในฉบับเดียวกัน
ส่วน นายอิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของนุษย์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้วางมาตรการแก้ไขปัญหาไว้ 6 มาตรการ โดยจะประชุมกันในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกด้านเมื่อผ่านที่ประชุมแล้วจะนำเข้าเสนอต่อครม. และเตรียมผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ แต่สิ่งที่สำคัญคือการเน้นให้ความรู้กับเด็กเรื่องเพศศึกษาเพราะต่อไปนี้เรื่องเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ต้องสอนให้เด็กเรียนรู้การป้องกันที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
สวนดุสิตโพลพบคนตกตะลึง
ขณะที่ สวนดุสิตโพล สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับเสียงสะท้อนกรณีการทำแท้งจากการพบซากทารกที่เกิดจากการทำแท้งครั้งนี้จากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล, 1,458 คน ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยข่าวการพบซากศพทารก 2002 ศพ ที่วัดไผ่เงินสร้างความตกตะลึงและตกใจว่าทำไมถึงมีคนทำแท้งกันมากมายขนาดนี้ถึง 62.18 % และประชาชนคิดว่าการทำแท้งเป็นสิทธิส่วนบุคคล และมาจากความจำเป็นของแต่ละคน 47.17 % ไม่เป็น 22.64% และไม่แน่ใจ 30.19%
สำหรับกรณีที่มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ตรงกับปัญหานี้ออกมาใช้ ประชาชนเห็นด้วย 65.62% ไม่เห็นด้วย 12.66% ไม่แน่ใจ 21.72 % ประชาชนคิดว่าสภาพสังคมย่ำแย่ลงอย่างมาก ทำให้เกิดพฤติกรรม การลอกเลียนแบบอย่างผิดๆ 34.38% สังคมไทยมีจิตใจตกต่ำ แย่ลง ขาดคุณธรรมและจริยธรรม 32.81% ส่วนแนวทางป้องกันแก้ไขเรื่องนี้ ประชาชนคิดว่าการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา การป้องกัน การคุมกำเนิด ให้เหมาะสมกับเด็กตามระดับชั้นเรียนมีจำนวน 36.09 % พ่อแม่คนในครอบครัวดูแลเอาใจใส่อบรมบุตรหลานอยางใกล้ชิด 29.14% ปราบปรามคลินิกทำแท้งเถื่อน 15.50%